วันอาทิตย์ที่ 4 สิงหาคม พ.ศ. 2556

ส่วนประกอบภายในคอมพิวเตอร์


ส่วนประกอบภายในเครื่องคอมพิวเตอร์


           เมนบอร์ด (Main Board)
           เมนบอร์ดหรือแผงวงจรหลักที่ใช้ในเครื่องคอมพิวเตอร์ การจะให้อุปกรณ์ต่างๆ
ทำงานได้นั้นต้องติดตั้งหรือเชื่อมต่อสาย
เข้ากับเมนบอร์ด แม้แต่ซีพียูก็ต้องติดตั้งเข้า
กับเมนบอร์ดถูกผลิกออกมาเพื่อใช้กับซีพียูต่างรุ่นต่างแบบ และยังมีผู้ผลิตหลายราย
ด้วยกัน เช่น   ASUS,  ECS,  GIGABYTE, CHAINTECH,  MSI,  ABIT,  INTEL  
เป็นต้น  เนื่องจากเมนบอร์ดมีจุดที่จะต้องต่อพ่วงอุปกรณ์ต่างๆ  เข้าไป  
ดังนั้นจึงต้องดูรายละเอียดที่สำคัญๆ  บนเมนบอร์ด  ดังนี้

















รูปที่ 2.16  เมนบอร์ด
           
            AGP Slot (Accelerator Graphic Port)
           เป็นสล็อตที่มีไว้สำหรับติดตั้งการ์ดแสดงผล  หรือการ์ดจอเท่านั้น  สล็อตเอจีพี
จะมีสีน้ำตาลตำแหน่งจะอยู่ด้านบนของสล็อตพีซีไอ  และอยุ่ใกล้กับตำแหน่งของ
ซ็อคเก็ตที่ติดตั้งซีพียู  เหตุผลที่ใช้ติดตั้งเฉพาะการ์ดแสดงผลก็เนื่องจากระบบบัสแบบ 
PCI  ที่ใช้กันอยู่เดิมนั้นไม่สามารถตอบสนองการใช้งาน  ที่ต้องการความรวดเร็วใน
การแสดงผลสูงๆอย่างเช่น  เกมส์สามมิติ  โปรแกรมกราฟฟิก  ประเภทสามมิติ  
ออกแบบบัสแบบเอจีพีหรือสล็อตแบบเอจีพีรุ่นใหม่จะมีความเร็วในการรับส่งข้อมูลสูงขึ้น  
ซึ่งมีข้สังเกตๆง่ายคือ 2X 4Xและล่าสุด 8X  ตัวเลขยิ่งสูงมากยิ่งเร็วขึ้น
 รูปที่ 2.17 สล็อตแบบเอพีจี
           
           แบตเตอรี่แบ๊คอัพ (CMOS Battery)
           แบตเตอรี่แบ๊คอัพเบอร์  CR2032  เป็นแบตเตอรี่ที่จ่ายกระแสไฟกับ  CMOS  
เพื่อเก็บข้อมูลในไบออส  เช่น  ฮาร์ดดิสก์  ซีดีรอม  วันเวลา  ถ้าหาแบตเตอรี่หมดอายุ
จะทำให้ข้อมูลในไบออสหายไป  ทำให้เครื่องคอมพิวเตอร์ไม่สามารถ  ตรวจสอบได้ว่า
มีฮาร์ดดิสก์  มีซีดีรอมต่อพ่วงอยู่หรือเปล่า  ทำให้คอมพิวเตอร์ไม่สามารถทำงานได้ 
แบตเตอรี่จะมีอายุการใช้งานประมาณสองหรือสามปี  หากต้องการเปลี่ยนก็หาซื้อ
ได้ตามร้านนาฬิกาหรือร้านถ่ยรูป
                                                                                                    
รูปที่ 2.18  แบตเตอรี่แบ๊คอัพ
           

            BIOS (Basic Basic Input Output) 
           เป็น  CHIP   IC  ชนิดหนึ่งที่อยู่บนเมนบอร์ด  ภายในจะมีโปรแกรมที่ใช้ตรวจสอบ
ค้นหาอุปกรณ์ประเภทฮาร์ดดิสก์  ซีดีรอมซีดีไดรฟ์ ที่ติดตั้งเข้าไป ทุกคนที่เปิดเครื่อง
คอมพิวเตอร์โปรแกรมที่อยู่ในไบออสจะเริ่มตรวจสอบการทำงานของอุปกรณ์คอมพิวเตอร์  
เช่น  การทำงานของ  เมนบอร์ด  ฮาร์ดดิสก์  แรม  การ์ดจอ  คีย์บอร์ด  ซึ่งกระบวนการนี้
เรียกว่า  Power  on  Self Test  (Post)  ในกรณีที่มีอุปกรณ์เสียหรือผิดปกติก็จะรายงาน
ให้ทราบ  นอกจากนี้ไบออสยังมีคำสั่งสั่งให้เครื่อคอมพิวเตอร์บูตเข้าสู่วินโดวส์  
หรือระบบปฏิบัติการอื่นที่ติดตั้งเอาไว้ด้วย  ในรูปเป็น  ไบออสของ  AIM  ไบออสมี
หลายยี่ห้อด้วยกัน  เช่น  AWARD,  PHOENIX,  COMPAQ,IBM  ซึ่งจะมีความ
แตกต่างกันบ้างในเครื่องของวิธีการเข้าไปตั้งค่าการทำงานของไบออส 
รวมทั้งรูปแบบเมนูของไบออส ส่วนเมนบอร์ดที่ใช้จะมีไบออสยี่ห้อไหน และตำแหน่งติดตั้ง
อยู่ที่ไหนบนเมนบอร์ดสามารถอ่านเพิ่งเติมได้จากคู่มือของเมนบอร์ด
                                                                                                                                                                    
         






                        
                                                                                                                                                          รูปที่ 2.19  BIOS
        

          CPU  Socket
         ใช้สำหรับติดตั้งซีพียูเข้ากับเมนบอร์ด  เมนบอร์ดที่ใช้กับซีพียูของอินเทลคือ  
Pentium  4 และ Canceler  จะเรียกซอคเก็ตSOCKET  478  ส่วนเมนบอร์ดสำหรับซีพียู  
AMD  นั้นจะมีซ็อคเก็ตแบบ  SOCKET  462  หรือเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า  SOCKET  A  
จุดสังเกตว่าเมนบอร์ดเป็นซ็อคเก็ตแบบใดนั้นก็ดูจากชื่อที่พิมพ์ไว้บนช็อคเก็ต  
ส่วนความแตกต่างอีกอย่างหนึ่งก็คือรอยมาร์คที่มุมของซ็อคเก็ต  ถ้าเป็นซ็อคเก็ต  478  
จะมีรอยมาร์คอยุ่ที่มุมหนึ่งด้าน  ส่วนซ็อคเก็ต  462  จะมีรอยมาร์คที่มุมสองด้าน  
โดยรอยมาร์คจะตรงกับตำแหน่งของซีพียู  เพื่อให้ติดตั้งซีพียูเข้ากับซ็อคเก็ตได้อย่าง
ถูกต้อง
 รูปที่  2.20  CPU  Socket
          
          ขั้วต่อสายไฟ  ( ATX  Power  Connector)
          ขั้วต่อสายไฟจากเพาเวอร์ซัพพลายเข้ากับเมนบอร์ด  ซึ่งเป็นขั้วต่อแบบ  ATX  
โดยที่เพาเวอร์ซัพพลายจะมีสายไฟหนึ่งชุดเอาไว้ต่อเข้ากับเมนบอร์ด  และด้านหนึ่
ของขั้วต่อจะมีสลักล็อกสายไฟ  ป้องกันไม่ให้สายไฟหลุดจากเมนบอร์ดได้ง่าย
 รูปที่  2.21  ขั้วต่อสายไฟ
         
        คอนเน็คเตอร์
        คอนเน็คเตอร์สำหรับต่อสายแพเข้ากับ  Disk  Drive  ซึ่งเมนบอร์ดจะมีคอนเน็คเตอร์
ไว้ให้หนึ่งช่อง  ซึ่งก็เพียงพอต่อการใช้งาน  เพราะเครื่องคอมพิวเตอร์ส่วยใหญ่จะติดตั้งดิสก์
ไดรฟ์เท่านั้น  จุดสังเกตก็คือจะมีข้อความว่า  FLOPPY  หรือเมนบอร์ดบางรุ่นจะเป็ตัวย่อว่า
 FDD  พิมพ์กำกับอยู่  ส่วนที่สำคัญอย่างหนึ่งก็คือที่ช่องคอนเน็คเตอร์จะมี  Pin  หรือเข็มอยู่ 
 33  อัน  โดยด้านหนึ่งจะมีคำว่า  PIN  1  พิมพ์กำกับอยู่ด้วย  เมื่อต้องการต่อสายแพเข้ากับ
คอนเน็เตอร์จะต้องเอาด้านที่มีสีแดงหรือสีน้ำเงินมาไว้ที่ตำแหน่ง  PIN  1
     
รูปที่  2.22  คอนเน็คเตอร์
            
            IDE  Connector
            เป็นคอนเน็คเตอร์ที่ใช้สำหรับเชื่อมต่อสายแพกับฮาร์ดดิสก์แบบ   IDE  รวมถึง
อุปกรณ์จำพวกไดรฟ์อ่านเขียนข้อมูล  เช่น  ซีดีรอม  ดีวีดี  ซิพไดรฟ์  โดยเมนบอรืดจะมี
คอนเน็คเตอร์  IDE  อยู่สองชุดด้วยกัน  เรียกว่า  IDE  1 กับ IDE  2  แต่ละคอนเน็คเตอร์จะ
รองรับอุปกรณ์ได้สองชิ้น  ซึ่งหมายถึงจะต่อฮาร์ดดิสก์รวมทั้งซีดีรอมได้สูงสุดแค่สี่ตัว 
โดยอาจจะเป็นฮาร์ดดิสืกสองตัวกับไดรฟ์ CD-RW  และไดรฟ์  DVD  อีกอย่างละหนึ่ง 
เช่นเดียวกับ  FDD  Connector  ก็คือจะมีตัวอักษรพิมพ์กำกับว่าด้านใดคือ  PIN  1  
เพื่อให้ต่อสายแพเข้าไปอย่างถูกต้อง  แต่  IDE  Connector  จะมีจำนวนพินมากกว่าคือ  
39  พิน
   รูปที่  2.23  IDE  Connector
         
          PCI  Slots  (Peripherals component interconnect)
         สล็อตพีซีไอ  เป็นช่องที่เอาไว้สำหรับติดตั้งอุปกรณ์เพิ่มเติม  เช่น  ติดตั้งการ์ด  
SCSI  การ์ดเสียง  การ์ดเน็ตเวิร์ค  โมเด็มแบบ  Internal  เมนบอร์ดโดยส่วนใหญ่จะมี
สล็อตพีซีไอเป็นสีขาวครีม  แต่ก็มีเมนบอร์ดรุ่นใหม่บางรุ่นที่เพิ่มสล็อคพีซีไอโดยใช้
สีแตกต่าง  เช่น  สีน้ำเงิน   เพื่อใช้ติดตั้งการ์ดที่ออกแบบมาโดยเฉพาะสล็อตแบบ
พีซีไอนั้นถูกออกแบบมาแทนสล็อตแบบ  VL  ซึ่งทำงานได้ช้าการติดตั้งอุปกรณ์ทำได้ยาก  
เนื่องจากต้องเซ็ตจัมเปอร์  แต่พีซีไอนั้นจะเป็นระบบ Plug  and  play  ที่ติดตั้งอุปกรณ์
ได้ง่ายกว่าอุปกรณ์บางอย่าง  เช่น  การ์ดเสียง 
เมื่อติดตั้งแล้วโอเอสจะรู้จักทันทีหรือเพียงแค่ลงไดรเวอร์เพิ่มเติมเท่านั้น  อนึ่ง 
สล็อตแบบพีซีไอนั้นเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า  PCI  Bus  ซึ่งหมายถึงเส้นทางที่ใช้ใน
การรับส่งข้อมูลระหว่างเมนบอร์ดกับอุปกรณ์ต่อพ่วง  โดยบัสแบบพีซีไอจะทำงาน
ในระบบ  32 บิต
                                                                                                           
                                                                                                                           
    








รูปที่  2.24  PCI  (Peripherals  component  interconnects)

            RAM Sockets
            เป็นช่องที่ใช้สำหรับติดตั้งแรมเข้าไป  เมนบอร์ดแต่ละรุ่นจะมีช่องสำหรับติดตั้ง
แรมไม่เท่ากัน  บางรุ่นอาจจะมีแค่สอง  บางรุ่นมีสาม  บางรุ่นมีสี่  จำนวนช่องถ้ามีเยอะก็
จะทำให้เพิ่มแรมได้มากขึ้น  ซ็อคเก็ตที่ใช้ติดตั้งแรมยังแบ่งออกตามชนิดของแรมด้วย  
ถ้าเป็นเมนบอร์ดที่ใช้แรมแบบ  DDR  จะมีรอยมาร์คอยู่ตรงกลางหนึ่งช่อง  ซึ่งจะตรงกับ
ตำแหน่งรอยมาร์คที่แรม

รูปที่  2.25  RAM  Sockets
              
              System  Panel  Connector
              จากรูปจะสังเกตเห็นกลุ่มเข็มที่โผล่ออกมาเหมือนเสาเข็ม  สำหรับ  System  panel  
นั้นเป็นจุดที่ใช้ต่อสายสวิตช์ปิดเปิดเครื่อง  (Power  Switch)  สายไฟปุ่นรีเซต(Reset  Switch)  
ไฟแสดงการทำงานของฮาร์ดดิสก์  (HDD LED)  ลำโพงภายในตัวเครื่อง  (Speaker)  
และสวิตซ์ล็อกการทำงานของคีย์บอร์ด  (Keyboerd  Lock)  โดยสวิตซ์หรือสายไฟหลาว
นี้จะติดอยู่กับเคสเครื่องคอมพิวเตอร์ถ้าไม่ต่อสายไฟจากเคสเข้ากับ  System  panel  
สวิตซ์เปิดเครื่องหรือไฟแสดงการทำงานของฮาร์ดดิสก์ก้จะไม่ติด
 รูปที่  2.26  System  Panel  Connector 
              

               PS/2 Mouse, PS/2 Keyboard  Port
              เป็นพอร์ตที่ใช้สำหรับต่อสายเมาส์กับสายคีย์บอร์ดเข้ากับเครื่องคอมพิวเตอร์  
 โดยเรียกว่าพีเอสทูเมาส์หรือพีเอสทูคีย์บอร์ด  ซึ่งพอร์ตจะมีรูกลมหกรู  แล้วก็รูสี่เหลี่ยมหนึ่งรู 
 ซึ่งปลายสายคีย์บอร์ดหรือเมาส์ก็จะมีเข็มที่ตรงกับตำแหน่งของรูที่พอร์ตด้วย  
การเสียบสายเมาส์และคีบอร์ดเข้าไปต้องระวังให้เข็มตรงกับรู  สำหรับพอร์ตเมาส์และคีบอร์ด
นั้นจะใช้  Color Key  แสดงเอาไว้สีเขียวสายต่อเมาส์  สีน้ำเงินคือสายต่อคีย์บอร์ด  
นอกจากนี้ยังมีจุดสังเกตอีกประการหนึ่งคือเมื่อประกอบเมนบอร์ดเข้ากับเคส  ที่เคสจะมี
ลักษณ์รูปเมาส์กับรูปคีย์บอร์ดติดอยุ่  เพื่อให้ต่อสายเมาส์และคีย์บอร์ดได้ถูกต้อง

              USB Port (Universal Serial Bus)
              พอร์ตสำหรับต่อพ่วงกับอุปกรณ์ที่มีพอร์ตแบบยูเอสบี  เช่น  พรินเตอร์  สแกนเนอร์  
กล้องดิจิตอล  ซีดีรอมไดรฟ์  ซิพไดรฟ์  เป็นต้น  เมนบอร์ดรุ่นใหม่จะมีพอร์ตยูเอสบีเพิ่มมา
อีกเรียกว่าพอร์ต USB 2.0  ซึ่งรับส่งข้อมูลได้เร็วกว่าเดิม  เมื่อต้องซื้ออุปกรณ์ต่อพ่วง  
ควรตรวจสอบด้วยว่าอุปกรณ์นั้นเชื่อมต่อกับพอร์ตยูเอสบีรุ่นเก่า  หรือว่าต้องใช้ร่วมกับ
พอร์ตยูเอสบี 2.0  เพื่อความมั่นใจว่าอุปกรณ์ที่ซื้อมานั้นจะทำงานได้อย่างไม่มีปัญหาใดๆ
 รูปที่ 2.27  USB Port
              
              Parallel  Port
              พอร์ตพาราลเลล  เป็นพอร์ตแบบตัวเมียมีรู  25  รู   สำหรับต่อสายพรินเตอร์
หรือสแกนเนอร์ที่มีพอร์ตแบบพาราลเลล  ซึ่งส่วนใหญ่จะใช้ต่อกับเครื่องพรินเตอร์มากกว่า  
บางคนจะเรียกว่าพรินเตอร์พอร์ต  โดยส่วนใหญ่พอร์ตพาราลเลลจะมีกับเครื่องพรินเตอร์
รุ่นเก่า  หรือในเครื่องพรินเตอร์ระดับกลางๆ ขึ้นไป

 
 รูปที่ 2.28 Parallel  Port
              
               Serial Port 
               พอร์ตแบบตัวผู้ที่มีขาสัญญาณอยู่  9  ขา  เรียกว่าคอมพอร์ต  (COM  Port) 
เป็นพอร์ตที่ใช้สำหรับต่อโมเด็มเมาส์  หรือจอยสติ๊ก  ปัจจุบันอุปกรณ์ที่ใช้พอร์ตนี้แทบ
ไม่มีให้เห็น  เนื่องจากหันไปใช้พอร์ตแบบ  USB  เป็นส่วนใหญ่

 
 รูปที่ 2.29  Serial  Port 
                  

                  Video  Port 
                  พอร์ตสำหรับต่อสายสัญญาณภาพกับจอคอมพิวเตอร์  ลักษณะของพอร์ตจะ
เป็นพอร์ตแบบตัวเมียมีรู  15 รู  สำหรับพอร์ตนี้จะมีอยู่เฉพาะในเมนบอร์ดรุ่นที่รวมเอาการ์ด
แสดงผลเข้าไปกับเมนบอร์ดด้วย  (VGA  On board)

 










รูปที่  2.30  Video  Port

                     IEEE 1394 Port
                     เรียกอีกอย่างหนึ่งว่า  Fire  Wire (บริษัท  โซนี่เรียกว่า  I-Link) เป็นพอร์ตที่
ใช้สำหรับอุปกรณ์ต่อพ่วงอีกชนิดหนึ่ง  ซึ่งก็มีในเมนบอร์ดบางรุ่นพอร์ตนี้จะใช้สำหรับต่อพ่วง
กับสแกนเนอร์  กล้องดิจิตอลระดับไฮเอนด์  กล้องดิจิตอลวีดีโอ  ฮาร์ดดิสก์ที่มีพอร์ตแบบ  
Fire Wire  โดยส่วนใหญ่แล้วจะใช้ต่อกับดิจิตอลวีดีโอ  เนื่องจากการที่สามารถควบคุมการ
ทำงานของกล้องผ่านเครื่องคอมพิวเตอร์ได้โดยตรง

                    Line in /  Line out / Microphone  jack
                    สำหรับเมนบอร์ดรุ่นใหม่  การ์ดเสียงจะถูกรวมเข้าไปกับเมนบอร์ดด้วย  
ที่เรียกกันว่า  Sound on Board จุดสังเกตก็คือที่เมนบอร์ดจะมีช่องสำหรับต่อไมโครโฟน  
ลำโพง  แล้วก็เครื่องเล่นเทป  ทำให้ไม่ต้องซื้อการ์ดเสียงเพิ่ม  อย่างไรก็ดี  ถ้าต้องการ
คุณภาพเสียงที่ดีกว่า  หรือต้องการใช้เครื่องคอมพิวเตอร์กับการทำดนตรีหรืองานตัดต่อวีดีโอ  
ควรติดตั้งการ์ดเสียงเพิ่ม

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น