คอมพิวเตอร์กับการแก้ปัญหาการศึกษาไทย
การศึกษาและเทคโนโลยีมีความสำคัญในการพัฒนาประเทศ
ดังนั้นประเทศที่ประชากรมีความรู้ความสามารถ
จึงส่งผลให้ประเทศนั้นมีความเจริญก้าวหน้าตามไปด้วย ดังพูดที่ว่า “การศึกษาสร้างคน
คนสร้างชาติ”
จากความเจริญก้าวหน้าทางวิทยาการ ทำให้กระบวนการการจัดการศึกษาต้องมีการเปลี่ยนแปลงตามไปอย่างต่อเนื่อง พร้อมกับเทคโนโลยีการศึกษา และเมื่อกล่าวถึงเทคโนโลยีสารสนเทศมีอุปกรณ์ที่เป็นเทคโนโลยีระดับสูง ที่เข้ามามีอิทธิพลและบทบาทต่อการศึกษาอย่างชัดเจน คือ คอมพิวเตอร์ ซึ่งมีการใช้กันอย่างแพร่หลาย ในวงการการศึกษาของไทยได้นำคอมพิวเตอร์มาใช้ประโยชน์ ทั้งในด้านการบริหาร การบริการ และการใช้คอมพิวเตอร์เพื่อการเรียนการสอน คอมพิวเตอร์ที่ใช้ในการเรียนการสอน อาจเรียกว่า คอมพิวเตอร์เพื่อการศึกษา ใช้ในด้านการศึกษา จัดการเรียนการสอน การลงทะเบียน การวัดและประเมินผลการศึกษา การสร้างและวิเคราะห์ข้อสอบ จนถึงใบรับรองการจบหลักสูตร คอมพิวเตอร์เป็นทั้งเครื่องมือในการศึกษาและเครื่องมือในการสอน
การใช้คอมพิวเตอร์ในการจัดการเรียนการสอน เพื่อช่วยให้ครูผู้สอนประหยัดเวลา และมีเวลาไปปรับปรุงแก้ไขบทเรียนให้เหมาะสมและทันสมัยต่อยุคปัจจุบัน และยังมีเวลาสำหรับการดูแล เอาใจใส่นักเรียน ให้คำปรึกษากับนักเรียน นอกจากนี้การใช้คอมพิวเตอร์มาช่วยในการจัดการเรียนการสอน ทำให้ครูผู้สอนมีความสามารถในการวิเคราะห์ผู้เรียนเพื่อออกแบบและพัฒนาระบบการสอนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตรงกับวัตถุประสงค์และความต้องการของผู้เรียน
คอมพิวเตอร์ช่วยสอนเป็นการใช้สื่อคอมพิวเตอร์ ในกระบวนการเรียน เป็นการเรียนโดยตรงและนักเรียนสามารถมีปฏิสัมพันธ์กับคอมพิวเตอร์ได้ เช่นเดียวกับการสอนระหว่างครูกับนักเรียน คุณภาพของระบบการสอนโดยการใช้คอมพิวเตอร์นี้ จะมีประสิทธิผลและเกิดประสิทธิภาพเพียงใดนั้น ขึ้นอยู่กับผู้ออกแบบการเรียนการสอนนั้นของระบบนั้น
คอมพิวเตอร์ช่วยสอน เป็นหนึ่งในสื่อเทคโนโลยีที่ถูกเลือกมาเพื่อพัฒนาประสิทธิภาพของการคิด การเรียนรู้ และการค้นคว้าอย่างต่อเนื่อง ที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายในระบบการศึกษาไทย เพราะเป็นสิ่งที่ตอบสนองการเรียนการสอนในแบบเน้นนักเรียนเป็นศูนย์กลาง เปิดโอกาสให้นักเรียนได้ศึกษาค้นคว้า ด้วยกระบวนการที่สามารถคิดเป็น ทำเป็น และแก้ปัญหาเป็น เพื่อเป้าหมายในการแก้ปัญหาการศึกษาไทยให้นัดเรียนเป็นคนเก่ง คนดี และอยู่ในสังคมได้อย่างมีความสุข นอกจากคอมพิวเตอร์จะเป็นผลดีต่อการศึกษาแล้ว ยังมีผลเสีย คือ การพัฒนาสื่อคอมพิวเตอร์ต้องใช้ค่าใช้จ่ายสูงพอสมควร ต้องอาศัยผู้เชี่ยวชาญและผู้ดูแลระบบจำนวนมาก ใช้เวลานานในการพัฒนา การออกแบบสื่อทำได้ยากและซับซ้อน และที่สำคัญการสอดแทรกคุณธรรมและจริยธรรมทำได้ยาก
ในปัจจุบันได้มีการนำคอมพิวเตอร์มาใช้ในกระบวนการจัดการเรียนการสอนอย่างแพร่หลาย ครูยุคใหม่นอกจากจะต้องมีความรู้ในเนื้อหาเป็นอย่างดีแล้ว ต้องมีความสามารถในการใช้การสอนแบบใหม่ให้เกิดประสิทธิภาพ สื่อทุกชนิดมีคุณค่าและมีความสำคัญที่แตกต่างกันขึ้นอยู่กับสถานการณ์ที่จะนำมาประยุกต์ การปรับเปลี่ยนวิธีการสอนเป็นสิ่งจำเป็น โดยให้ความสำคัญต่อกระบวนการพัฒนาการเรียนรู้ เพื่อกระตุ้นให้ผู้เรียนเป็นบุคคลแห่งการเรียนรู้ สามารถศึกษาค้นคว้าด้วยตนเอง ผ่านเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ต่างๆ ผสานกับวัฒนธรรม ภูมิปัญญาท้องถิ่น และส่งเสริมคุณธรรม จริยธรรม ทำให้เกิดการพัฒนาการศึกษาไทยให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
จากความเจริญก้าวหน้าทางวิทยาการ ทำให้กระบวนการการจัดการศึกษาต้องมีการเปลี่ยนแปลงตามไปอย่างต่อเนื่อง พร้อมกับเทคโนโลยีการศึกษา และเมื่อกล่าวถึงเทคโนโลยีสารสนเทศมีอุปกรณ์ที่เป็นเทคโนโลยีระดับสูง ที่เข้ามามีอิทธิพลและบทบาทต่อการศึกษาอย่างชัดเจน คือ คอมพิวเตอร์ ซึ่งมีการใช้กันอย่างแพร่หลาย ในวงการการศึกษาของไทยได้นำคอมพิวเตอร์มาใช้ประโยชน์ ทั้งในด้านการบริหาร การบริการ และการใช้คอมพิวเตอร์เพื่อการเรียนการสอน คอมพิวเตอร์ที่ใช้ในการเรียนการสอน อาจเรียกว่า คอมพิวเตอร์เพื่อการศึกษา ใช้ในด้านการศึกษา จัดการเรียนการสอน การลงทะเบียน การวัดและประเมินผลการศึกษา การสร้างและวิเคราะห์ข้อสอบ จนถึงใบรับรองการจบหลักสูตร คอมพิวเตอร์เป็นทั้งเครื่องมือในการศึกษาและเครื่องมือในการสอน
การใช้คอมพิวเตอร์ในการจัดการเรียนการสอน เพื่อช่วยให้ครูผู้สอนประหยัดเวลา และมีเวลาไปปรับปรุงแก้ไขบทเรียนให้เหมาะสมและทันสมัยต่อยุคปัจจุบัน และยังมีเวลาสำหรับการดูแล เอาใจใส่นักเรียน ให้คำปรึกษากับนักเรียน นอกจากนี้การใช้คอมพิวเตอร์มาช่วยในการจัดการเรียนการสอน ทำให้ครูผู้สอนมีความสามารถในการวิเคราะห์ผู้เรียนเพื่อออกแบบและพัฒนาระบบการสอนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตรงกับวัตถุประสงค์และความต้องการของผู้เรียน
คอมพิวเตอร์ช่วยสอนเป็นการใช้สื่อคอมพิวเตอร์ ในกระบวนการเรียน เป็นการเรียนโดยตรงและนักเรียนสามารถมีปฏิสัมพันธ์กับคอมพิวเตอร์ได้ เช่นเดียวกับการสอนระหว่างครูกับนักเรียน คุณภาพของระบบการสอนโดยการใช้คอมพิวเตอร์นี้ จะมีประสิทธิผลและเกิดประสิทธิภาพเพียงใดนั้น ขึ้นอยู่กับผู้ออกแบบการเรียนการสอนนั้นของระบบนั้น
คอมพิวเตอร์ช่วยสอน เป็นหนึ่งในสื่อเทคโนโลยีที่ถูกเลือกมาเพื่อพัฒนาประสิทธิภาพของการคิด การเรียนรู้ และการค้นคว้าอย่างต่อเนื่อง ที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายในระบบการศึกษาไทย เพราะเป็นสิ่งที่ตอบสนองการเรียนการสอนในแบบเน้นนักเรียนเป็นศูนย์กลาง เปิดโอกาสให้นักเรียนได้ศึกษาค้นคว้า ด้วยกระบวนการที่สามารถคิดเป็น ทำเป็น และแก้ปัญหาเป็น เพื่อเป้าหมายในการแก้ปัญหาการศึกษาไทยให้นัดเรียนเป็นคนเก่ง คนดี และอยู่ในสังคมได้อย่างมีความสุข นอกจากคอมพิวเตอร์จะเป็นผลดีต่อการศึกษาแล้ว ยังมีผลเสีย คือ การพัฒนาสื่อคอมพิวเตอร์ต้องใช้ค่าใช้จ่ายสูงพอสมควร ต้องอาศัยผู้เชี่ยวชาญและผู้ดูแลระบบจำนวนมาก ใช้เวลานานในการพัฒนา การออกแบบสื่อทำได้ยากและซับซ้อน และที่สำคัญการสอดแทรกคุณธรรมและจริยธรรมทำได้ยาก
ในปัจจุบันได้มีการนำคอมพิวเตอร์มาใช้ในกระบวนการจัดการเรียนการสอนอย่างแพร่หลาย ครูยุคใหม่นอกจากจะต้องมีความรู้ในเนื้อหาเป็นอย่างดีแล้ว ต้องมีความสามารถในการใช้การสอนแบบใหม่ให้เกิดประสิทธิภาพ สื่อทุกชนิดมีคุณค่าและมีความสำคัญที่แตกต่างกันขึ้นอยู่กับสถานการณ์ที่จะนำมาประยุกต์ การปรับเปลี่ยนวิธีการสอนเป็นสิ่งจำเป็น โดยให้ความสำคัญต่อกระบวนการพัฒนาการเรียนรู้ เพื่อกระตุ้นให้ผู้เรียนเป็นบุคคลแห่งการเรียนรู้ สามารถศึกษาค้นคว้าด้วยตนเอง ผ่านเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ต่างๆ ผสานกับวัฒนธรรม ภูมิปัญญาท้องถิ่น และส่งเสริมคุณธรรม จริยธรรม ทำให้เกิดการพัฒนาการศึกษาไทยให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
ศึกษาข้อมูลจาก: www.kroobannok.com/53198
: www.edu.nu.ac.th/wbi/366541/index.htm
: www.edu.nu.ac.th/wbi/366541/index.htm
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น